วันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

การจัดจำแนกแมว



การจัดจำแนกแมว (General taxonomy)




             โดยทั่วไปมีการแบ่งพันธุ์แมวออกเป็น ๒ ลักษณะใหญ่ๆ คือ แมวขนยาว (longhaired cat) และแมวขนสั้น (shorthaired cats) 
              การแบ่งพันธุ์ด้วยวิธีนี้ทำให้จำแนกแมวออกได้ตามลักษณะพันธุ์ที่จำเพาะต่างๆ กัน การจัดจำแนกแมวในยุโรปและสหรัฐอเมริกามีการกำหนดมาตรฐานของพันธุ์แมวที่เป็นที่ยอมรับกัน ทั้งนี้ลักษณะมาตรฐานของพันธุ์ก็มีการเปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยๆ การใช้ชื่อเรียกพันธุ์แมวที่แสดงถึงลักษณะของพันธุ์ที่จำเพาะมีความแตกต่างกันระหว่างในยุโรปและสหรัฐอเมริกา และมีบางพันธุ์มีการจัดจำแนกเฉพาะต่างหากในสหรัฐอเมริกาเท่านั้นอะไรคือการเพาะพันธุ์มืออาชีพ (What is professional breeding?)
              การเพาะพันธุ์แมวเป็นอาชีพเป็นธุรกิจมีมีความซับซ้อนในต่างประเทศ แต่สำหรับในบ้านเรายังเป็นธุรกิจที่ยังไม่แพร่หลายนัก การเลี้ยงแมวยังมีไม่มากนัก และยังไม่นิยมเลี้ยงแมวพันธุ์ หลายคน หรือนักเพาะพันธุ์ในบ้านเรา (ทั้งสุนัขและแมว) คิดแต่เพียงว่า เราซื้อพ่อพันธุ์แม่พันธุ์แท้มาและเริ่มผสมพันธุ์เท่านี้ก็ได้แมวพันธุ์แท้แล้ว แต่ในความเป็นจริงการเพาะพันธุ์แมวมีความต้องการอะไรมากไปกว่านั้น ต้องการความเข้าใจในพันธุกรรมที่เกี่ยวกับข้องกับพันธุ์นั้นๆ ต้องการรายละเอียดอื่นๆ เช่น ประวัติของพันธุ์ที่แท้จริงของคู่พ่อพันธุ์แม่พันธุ์ เป็นต้น ในบางครั้งแมวที่มีพันธุ์ประวัติดี ลักษณะดี เจ้าของอาจจะทำหมันเสีย หรือมีการขาย เพราะถือเป็นแมว "คุณภาพดี (pet quality)" ไม่ได้มีการเก็บไว้ในฐานผู้สืบทอดพันธุกรรม
              ในความเป็นจริงจะพบมีแมวเพียงบางตัวเท่านั้นที่เกิดจากพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่มีลักษณะทางพันธุกรรมที่ดีตรงตามลักษณะพันธุ์ และควรนำไปใช้เป็นผู้สืบทอด หรือเป็นพ่อพันธุ์ หรือแม่พันธุ์ แมวพวกนี้ถือเป็น แมวคุณภาพดี (show quality) และพบได้น้อยมากและมีราคาแพง นอกจากนี้นักผสมพันธุ์ควรมีความรู้เกี่ยวกับโรคที่เกิดจากพันธุกรรมและลักษณะด้วยที่เกิดจากพันธุกรรมประจำแมวแต่ละพันธุ์ด้วย เพื่อจะไม่คัดเลือกแมวที่มีลักษณะเหล่านั้นไปสืบทอดต่อไป
แมวพันธุ์แท้ มีลักษณะคล้ายๆ กับสัตว์พันธุ์แท้อื่นๆ คือ มีความอ่อนไหว หรือมีความไวโรคบางโรค และ ความเครียด ดังนั้นผู้เลี้ยงอาจจะต้องใช้งบประมาณและศึกษาหาความรู้ให้มากกว่าปกติ เพื่อทำให้สามารถดูแลสุขภาพและคุณภาพชีวิตของแมวที่เราเลี้ยงให้ดีที่สุด ถ้าแมวนั้นต้องถูกนำไปเลี้ยงเพื่อเป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ การดูแลในเรื่องที่อยู่อาศัยและอาหารจะต้องมีความพิเศษกว่าปกติ สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยเพิ่มเติม ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในฟาร์มแมวที่เป็ฯมืออาชีพ
ผู้ที่คิดจะเข้าสู่ธุรกิจการเพาะพันธุ์แมว เพื่อหวังร่ำรวยคงต้องคิดให้ดี ถ้าเป็นมืออาชีพ ผลิตสินค้า (แมว) ให้มีคุณภาพ สำหรับในบ้านเราแมวพันธุ์ยังมีราคาค่อนข้างสูง การเพาะพันธุ์ยังไม่ถือว่าเป็นมืออาชีพ ความนิยมเลี้ยงแมวบ้านเราส่วนใหญ่เป็นแมวพันธุ์ผสม แมวพื้นเมือง และยังมีปัญหาแมวจรจัดอีกมากมาย
             การประกวดแมว หรือแม้แต่สัตว์ชนิดอื่นๆ เป็นการส่งเสริมให้คนนิยมเลี้ยงแมวและมีความภาคภูมิใจในแมวที่ตนเองเลี้ยง ไม่ได้ส่งเสริมให้ทุกคนต้องนำแมวเหล่านั้นไปเพาะพันธุ์ ในบ้านเรการประกวดแมวบางแห่งไม่ยอมรับแมวที่ผ่านการทำหมันแล้ว แต่แมวที่ตอนแล้วก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคให้ผู้เลี้ยงนำแมวไปประกวดเพื่อล่ารางวัลได้ หลายแห่งมีการประกวดโดยไม่มีเงื่อนไขของการตอน เช่น แมวแสนรู้ เป็นต้น คงต้องหารายละเอียดในสนามประกวดแต่ละแห่งต่อไปพันธุ์แมว



ขอขอบคุณข้อมูลจาก
http://student.nu.ac.th/kif555/wimonrat/index_%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B8%A7.html

โรคของแมว

  โรคของแมว





          แมวก็เหมือนคนเรา เหมือนสุนัข หรือสัตว์อื่นๆ ที่มีเจ็บไข้ได้ป่วยเหมือนกัน แต่การป่วยของแมวจะดูลำบากกว่าของสุนัข บางครั้งกว่าจะทราบว่าเขาป่วย เขาก็มีอาการป่วยมากแล้วหละ




  • โรคติดเชื้อไวรัส
    • โรคช่องท้องอักเสบจากไวรัส
    • โรคหวัดแมว
  • โรคติดเชื้อแบคทีเรีย
    • โรคติดเชื้อแบคทีเรีย
    • โรคติดเชื้อแบคทีเรีย
  • โรคติดเชื้อราและโปรโตซัว
    • ราในแมว
    • โรคติดเชื้อโปรโตซัวในแมว
  • โรคผิวหนัง
    • โรคติดเชื้อ
    • โรคผิวหนังอักเสบในแมว
    • ขี้เรื้อนแห้งในแมว
  • โรคตับ
    • โรคตับอักเสบในแมว
    • Hepatic Lipidosis
  • โรคไต
    • โรคไตวายแบบเฉียบพลัน
    • โรคไตวายเรื้อรังในแมว
  • โรคหัวใจ
    • การติดต่อพยาธิหนอนหัวใจในแมว
    • สาระสำคัญเกี่ยวกับพยาธิหนอนหัวใจในแมว
  • โรคอื่นๆ ที่พบได้ในแมว
    • โปรแกรมวัคซีนของแมว

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

แมวที่มีคนติดตามบนโลกโซเชียล

แมวที่มีคนติดตามบนโลกโซเชียล







เส้าหลิน 


             แมวน้อยที่เคยถูกประกาศตามหาบ้านในวัยเด็ก โชคชะตาได้พานพบให้มาเจอกับตากล้อง
เรื่องราวที่แสนน่ารัก อบอุ่น และมิตรภาพระหว่างทั้งสองชีวิต จึงได้เริ่มต้นขึ้น นับแต่นั้นมา…
สายพันธุ์ ไทย-เปอร์เซีย
เกิดเมื่อ   16 มีนาคม 2551
ที่อยู่ปัจจุบัน ห้องลึกลับของตากล้อง
การปรากฏตัว 29 มิถุนายน 2557 เอสพลานาด แคราย – โครงการ รักษ์แมว ปันน้ำใจให้แมวจร
13 กันยายน 2557 Bcc Hall Central ลาดพร้าว – Premium Pet Thailand



จากเพจ เค้าเรียกผมว่าแมวhttps://www.facebook.com/theycallmemeaow?fref=ts


             










เสือโคร่ง
จากเพจ ทูนหัวของบ่าว https://www.facebook.com/kingdomoftigers?fref=t

      เพศผู้

      อายุ1ปี6เดือน
      สำหรับเจ้าเสือโคร่ง ทางเจ้าของได้ซื้อมาจากฟาร์มขณะตัวเล็กๆ แล้วนำมาเลี้ยงมาฝึกจนโต สำหรับ แมวพันธุ์ สก็อตติชโฟล์ ถูกค้นพบครั้งแรกในปี ค.ศ.1961 ในสก๊อตแลนด์ มันมีชื่อว่า Susie เป็นแมวสีขาวมีใบหูพับ และยังมีใบหน้าที่คล้ายกับนกฮูก ซึ่งในขณะนั้น William Ross ชายเลี้ยงแกะ ซึ่งเป็นผู้ค้นพบคนแรกก็ได้นำไปเลี้ยงแล้วมีลูกแมวเกิดมา 2 ตัว จึงนำไปผสมพันธุ์กับ บริติช ชอร์ตแฮร์ จนกลายเป็นต้นกำเนิดของสายพันธุ์นี้ และได้รับการจดทะเบียนอย่างถูกต้องที่รับรองโดย The Governing Council of the Cat Fancy ของประเทศอังกฤษ ในปี ค.ศ. 1966 - See more at: 








อโศก
   จากเพจ ทูนหัวของบ่าว https://www.facebook.com/kingdomoftigers?fref=t

       เพศผู้
       อายุ 5ปี

          ใครที่ใช้บริการรถไฟฟ้า BTS สถานีอโศก เป็นประจำ ต้องเคยพบปะเห็นหน้าเจ้าเหมียวสีเหลือง      ตัวอ้วนกลมที่เรียกติดปากกันในโลกไซเบอร์ว่า "แมวอโศก" แน่เลย เพราะช่วงก่อนหน้านี้มีคนแชร์        ภาพความน่ารักน่าฟัดของเจ้าแมวอโศกกันทั่วอินเทอร์เน็ต จนทำให้มันกลายเป็นแมวเซเลบไปใน        ชั่วข้ามคืนเลยล่ะ

          แต่เมื่อไม่กี่เดือนก่อน เจ้าเหมียวกลับถูกสุนัขไล่ฟัดจนหางแหว่ง ได้รับบาดเจ็บไปไม่น้อย คนรัก       แมวจึงพาเจ้าเหมียวไปรักษา พร้อมกับประกาศหาบ้านให้แมวอโศก แต่ก็เกิดดราม่าเล็ก ๆ ขึ้น เมื่อ       หลายคนไม่เห็นด้วยที่จะให้แมวอโศกไปอยู่ในกรงขัง หรืออยู่ในบ้านปิด เพราะมันน่าชอบอยู่ในที่         โล่ง ๆ อย่างสถานีรถไฟฟ้า BTS อโศก ตามธรรมชาติที่มันคุ้นเคยเป็นอย่างดีมากกว่า ความคิดหา         บ้านให้แมวอโศกในตอนนั้นจึงล้มเลิกไป


          แต่แล้ว เจ้าเหมียวอโศกก็โดนแมวตัวอื่นฟัดอีกครั้ง จนเจ็บไปทั้งตัว แถมเยื่อบุตายังอักเสบ ซึ่ง         เป็นผลพวงมาจากถูกแสงแฟลชของคนที่มาถ่ายรูปสาดเข้าตาบ่อย ๆ และยังมาถูกแมวตัวอื่นกัด          ใกล้ดวงตาอีก แอดมินเพจ "ทูนหัวของบ่าว" ที่ไปพบเข้าก็เลยพาไปรักษากับสัตวแพทย์ พร้อมกับ        อัพเดทอาการให้ฟังเป็นระยะ ๆ ผ่านเพจ "ทูนหัวของบ่าว" จากนั้น ความคิดของชาวเน็ตที่จะหาบ้าน      ให้แมวอโศกก็กลับมาอีกครั้ง เพราะไม่อยากให้มันเสี่ยงตายกับอันตรายบนท้องถนน และโรคร้ายอื่น      ๆ ที่พร้อมจะคร่าชีวิตมันได้ทุกเมื่อหากปล่อยมันไว้ที่สถานีรถไฟฟ้า


         ว่าแล้วบรรดาคนรักแมวก็เลยช่วยกันประกาศหาบ้านใหม่ให้เจ้าแมวอโศก โดยช่วงที่ประกาศหา       บ้านอยู่นี้ ทางแอดมินเพจทูนหัวของบ่าวก็รับดูแลไว้ให้ก่อน แต่เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะหนึ่ง ในที่สุด     ทางแอดมินเพจ "ทูนหัวของบ่าว" ก็ตัดสินใจรับเลี้ยงเจ้าเหมียวไว้เองซะเลย เพราะเห็นว่าเจ้าเหมียว     เข้ากับบรรดาแมวอีก 3 ตัวที่บ้านได้เป็นอย่างดี งานนี้ ทั้งแมวอโศก และเพื่อน ๆ อย่าง เสือโคร่ง เสือ     สมิง และมะลิ ก็เลยแข่งกันซนเลยทีเดียวเชียว








มิโซะ

จากเพจ https://www.facebook.com/mynameismiso?fref=ts
เพศเมีย
              อายุ1ปี1เดือน
  • เมื่อก่อนนางเคยเป็นแมวปกติ ใช้ได้ 4 ขา จนเกิดอุบัติเหตุทำให้ใช้ขาได้เพียง 2 ขาเท่านั้น
  • มิโซะเป็นแม่แมว และกำลังตั้งท้องอ่อน ๆ 
  • มิโซะเป็นแม่แมวสองขา ที่อุ้มท้องอย่างแข็งแกร่ง ด้วยความเป็นแม่เต็มเปี่ยม 
  • นางเข้มแข็งมาก แม้ว่าร่างกายจะไม่ปกติ ดวงตาของนางจะสู้ตลอดเวลา
  • มิโซะ ไม่เคยท้อ แม้ว่าร่างกายจะใช้ได้ไม่เต็มร้อย นางรักลูก และลูก ๆ ของนางก็รักนาง
      แม่มิโซะ เป็นแม่แมวอีกตัวที่โอบอุ้มลูก ๆ ด้วยความรัก แม้จะเป็นเพียงชีวิตเล็ก ๆ เป็นแค่สัตว์ แต่ด้วย       ความรักที่น่ารักและซึ้งใจ เราอดไม่ได้เลยที่อยากบอกว่า นางเป็นแม่อีกตัวที่น่ายกย่องเหลือเกิน
     เป็นความรักที่ซาบซึ้งระหว่างแม่และลูกเลยนะคะ
     แมวหมูแอบน้ำตาไหลที่แม้แต่แม่แมวที่ขาไม่ดี ยังสามารถสู้ชีวิต เลี้ยงลูก ๆ จนซนได้ถึงใจขนาดนี้
      เราก็ขอชื่นชม มิโซะ แม่แมวที่สู้ชีวิตที่สุดที่เราเคยเจอมา









เอเบิ้ล

จากเพจhttps://www.facebook.com/AbleMeaw?fref=ts


        “เอเบิ้ล”หรือ”นุ้งเอ” เหมียวจรเพศผู้ตัวน้อยที่เคราะห์ร้ายประสบอุบัติเหตุโดนหม้อแปลงไฟฟ้าช๊อตเนื่องจากความซุกซน จนทำให้หางขาดและต้องตัดขาหน้าทั้งสองข้าง อีกทั้งเนื้อส่วนก้นและระบบหูรูดยังถูกทำลายจนลำไส้โผล่ออกมา ทำให้ต้องใส่แพมเพิสตลอดเวลาอยู่ช่วงนึงเพื่อป้องกันลำไส้ที่โผล่ออกมาติดเชื้อ ก็ได้ “คุณปู” ผู้อุปการะใจดีที่คอยเลี้ยงดูนุ้งเอเป็นอย่างดี ทั้งป้อนอาหาร พาไปหาหมอ หมั่นเปลี่ยนแพมเพิส จนนุ้งเอหายดีและดูดีขึ้นมาก กลายเป็นเหมียวแสนน่ารักที่ใครๆต่างก็เอ็นดูและคอยให้กำลังใจนุ้งเอตลอดมา





ขอขอบคุณข้อมูลจาก

http://www.chicministry.com/chic-lifestyle/2014/09/21/lovemelovemypet-able

http://tv.truelife.com/detail/3103869/hilight/%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%94-%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%87-%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%9A-%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B8%81%E0%B9%87%E0%B8%AD%E0%B8%95%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B9%82%E0%B8%9F%E0%B8%A5%E0%B9%8C-%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%84%E0%B8%A3-%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B9%8C%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%B2#sthash.A91USGuH.dpuf


http://pet.kapook.com/view77432.html

10 สายพันธุ์แมวยอดนิยมในไทย



10 สายพันธุ์แมวยอดนิยมในไทย










1. แมวเปอร์เซีย (Persian)
  
      ราชินีแมวจากแดนตะวันออกกลาง ซึ่งมีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบเปอร์เซีย หรือประเทศตุรกีกับอิหร่านในปัจจุบัน แมวเปอร์เซียถือเป็นแมวต่างประเทศสายพันธุ์แรกที่ถูกนำเข้ามาในประเทศไทย สิ่งที่ทำให้แมวสายพันธุ์นี้ยังคงเป็นที่นิยมในหมู่คนรักแมวก็เพราะว่า นอกจากจะมีหน้าตาน่าเอ็นดูแล้ว ขนปุกปุยของแมวเปอร์เซียยังมีสีสันที่หลากหลาย และนิสัยส่วนตัวก็น่ารักด้วย


      


            ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของแมวเปอร์เซีย

          แมวเปอร์เซีย เป็นแมวที่มีขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ มีกระดูกที่ใหญ่และแข็งแรง หัวและหน้ากลม หน้าผากโหนก แก้มเต็ม ดวงตากลมโต และอยู่ในตำแหน่งที่ห่างกัน มีจมูกที่หัก กล่าวคือ สังเกตได้ชัดเจนเมื่อมองจากด้านข้างจะเห็นจุดหักระหว่างจมูกกับหน้าผากชัดเจน เมื่อมองจากด้านหน้าจะเห็นเป็นขีดอยู่ระหว่างดวงตา

         
 นอกจากหน้าตาที่น่ารักแล้ว ยังเป็นแมวที่มีอุปนิสัยอ่อนโยน เข้ากับคนอื่นได้ง่าย มีความร่าเริงซุกซน ปีนป่ายไปตามจุดต่าง ๆ เพื่อหาของมากัดเล่น ช่างประจบประแจง และเป็นแมวที่มีไหวพริบมากทีเดียว

         
   การเลี้ยงดูแมวเปอร์เซีย
          เมื่อตัดสินใจจะเลี้ยงแมวพันธุ์นี้แล้ว จงพึงระลึกไว้เสมอว่า การดูแลขนของแมวเปอร์เซียเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง ผู้เลี้ยงต้องหมั่นทำความสะอาด โดยการแปรงและสางขนแมวอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยป้องกันการเกิดขนพันกัน ซึ่งอาจกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรค รวมทั้งพยาธิต่าง ๆ ที่จะเป็นสาเหตุของโรคผิวหนังอักเสบและเป็นที่อยู่ของเห็บหมัดอีกด้วย

          ส่วนในเรื่องของอาหารการกินนั้น ควรเลือกอาหารที่ช่วยให้ทางเดินอาหารของแมวไม่อุดตัน เนื่องจากแมวเปอร์เซียจะใช้เวลาส่วนใหญ่ในการเลียทำความสะอาดขน อันเป็นสาเหตุในการกินหรือกลืนเส้นขนเข้าไปเป็นจำนวนมาก หากเส้นขนไปรวมตัวกันในช่องท้อง จะทำให้แมวเปอร์เซียมีอาการสำรอกหรือเกิดปัญหาของระบบย่อยอาหารได้





  2. แมวอเมริกัน ชอร์ตแฮร์ (American Shorthair)

        แมวสายพันธุ์อเมริกาที่สืบเชื้อสายมาจากประเทศในแถบยุโรป และแพร่พันธุ์มายังอเมริกา เมื่อสมัยที่ชาวยุโรปเดินทางไปแสวงหาถิ่นที่อยู่ใหม่ โดยพวกเขาได้นำแมวอเมริกันชอร์ตแฮร์ ติดเรือไปด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้หนูทำลายข้าวของ และได้มีการพัฒนาสายพันธุ์ในเวลาต่อมา จนกระทั่งกลายเป็นแมวพื้นเมืองขนสั้นของอเมริกาไปในที่สุด


         

          
 ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของแมวอเมริกัน ชอร์ตแฮร์
         สำหรับรูปร่างของแมวอเมริกัน ชอร์ตแฮร์ มีขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ โครงสร้างลำตัวโต มีกล้ามเนื้อแข็งแรง มองเห็นชัดเจน อกใหญ่ ขาใหญ่ ใบหูมีขอบเป็นทรงกลมมน ส่วนหัวมีลักษณะรูปไข่ ดวงตากลมโตเป็นสีเขียวมรกต มีลักษณะสีขน และรูปร่างมากกว่า 80 แบบ

         ส่วนอุปนิสัยของอเมริกัน ชอร์ตแฮร์ พบว่า เป็นแมวที่ช่างสงสัย นิสัยร่าเริง ชอบเล่น มีเสน่ห์ แต่จะฝึกค่อนข้างยาก ดังนั้นหากเป็นไปได้ เจ้าของควรจะคลุกคลีและอยู่กับแมวให้มาก ๆ

           
 การเลี้ยงดูแมวอเมริกัน ชอร์ตแฮร์

         ปัญหาของแมวพันธุ์อเมริกันขนสั้นส่วนใหญ่จะเป็นเชื้อราและเป็นหวัดง่าย ถ้าหากเจ้าของให้การดูแลไม่ดีก็จะเลี้ยงลำบาก ฉะนั้นเจ้าของควรพาแมวไปตรวจสุขภาพและฉีดวัคซีนเป็นประจำ ส่วนปัญหาเรื่องขนร่วงมีน้อยมาก โดยจะร่วงเฉพาะในช่วงเวลาผลัดขนปีละ 2 ครั้งเท่านั้น




3. แมวสก็อตติช โฟลด์ (Scottish Fold)

          Susie เป็นแมวพันธุ์สก็อตติช โฟลด์ ตัวแรกที่ถูกค้นพบในปี ค.ศ. 1961 ที่ประเทศสก็อตแลนด์ แต่ในตอนนั้นยังไม่มีใครทราบชื่อสายพันธุ์ที่แท้จริง เนื่องจากลักษณะของ Susie มีใบหูพับ และยังมีใบหน้าที่คล้ายกับนกฮูก ซึ่งหลังจากที่ Susie ให้กำเนิดลูกแมวน้อยหูพับ 2 ตัว William Ross ชายเลี้ยงแกะ ซึ่งเป็นผู้ค้นพบคนแรกก็ได้นำลูกแมวตัวเมียไปเลี้ยง หลังจากที่ลูกแมวตัวนั้นโตขึ้น จึงนำไปผสมพันธุ์กับ บริติช ชอร์ตแฮร์ จนกลายเป็นต้นกำเนิดของสายพันธุ์นี้ และได้รับการจดทะเบียนอย่างถูกต้องที่รับรองโดย The Governing Council of the Cat Fancy ของประเทศอังกฤษ ในปี ค.ศ. 1966






           
 ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของแมวสก็อตติช โฟลด์

          แมวสายพันธุ์นี้แบ่งออกเป็น 2 แบบคือ แบบขนสั้นกับแบบขนยาว โดยทั้ง 2 แบบจะมีลักษณะตัวกลม หัวกลม มีช่วงคอสั้น ดวงตากลมใหญ่ และมีหูตั้งตรงขนาดกลาง ไปจนถึงหูพับขนาดเล็กที่มีมุมพับกว้าง ปลายหูส่วนใหญ่จะกลม หูของลูกแมวจะเริ่มพับในช่วง 2-3  อาทิตย์แรก จมูกสันโค้งกว้างรับกับดวงตา ซึ่งบางตัวมีปากโค้งได้รูปรับกับคางพอดี จึงเป็นที่มาของสมญานามว่า Smiling Cat หรือ แมวยิ้ม นั่นเอง

          แมวพันธุ์สก็อตติช โฟลด์ เป็นแมวที่ไม่ค่อยส่งเสียง และชอบทำกิจกรรมในระดับปานกลาง พวกมันชอบที่จะเล่น เฉพาะเวลาที่มีเจ้าของมาร่วมเล่นด้วย บางตัวอาจไม่ชอบนอนบนตัก โดยเลือกที่จะอยู่ใกล้ ๆ กับเจ้าของแทน

          
การเลี้ยงดูแมวสก็อตติช โฟลด์

         การดูแลแมวสก็อตติช โฟลด์ ค่อนข้างง่าย แค่หมั่นแปรงขน 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์สำหรับแบบขนสั้น แต่อาจจะต้องเพิ่มการดูแลมากขึ้นหากเลือกที่จะเลี้ยงแบบขนยาว โดยเฉพาะบริเวณใบหูของแมว ควรหมั่นทำความสะอาดบ่อยครั้ง พอ ๆ กับการแปรงขน และโดยทั่วไป แมวพันธุ์นี้ส่วนใหญ่มีร่างกายที่ค่อนข้างสมบูรณ์อยู่แล้ว จึงไม่มีเรื่องอะไรที่น่าเป็นห่วงนัก





4. แมววิเชียรมาศ (Siamese)

          แมวไทยที่ชาวต่างชาติรู้จักกันดีในชื่อ Siamese Cat หรือ แมวสยาม หนึ่งในต้นตระกูลของแมวไทยที่ถูกนำไปปรับปรุงจนเกิดแมวไทยอีกหลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งตามตำนานสมุดข่อยได้กล่าวไว้ว่า หากใครได้เลี้ยงแมววิเชียรมาศ จะได้เป็นขุนนาง เพราะถือว่าแมววิเชียรมาศเป็นแมวลาภ อีกทั้งในอดีตยังเป็นแมวที่เลี้ยงกันในวังเป็นส่วนใหญ่ด้วย






           ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของแมววิเชียรมาศ

         เนื่องจากแมววิเชียรมาศเป็นแมวที่มีแต้มสีน้ำตาลเข้ม 9 จุดอยู่บนตัว ได้แก่ ที่ปลายเท้าทั้งสี่ ปลายหูทั้งสอง ปลายหาง บนจมูก และที่อวัยวะเพศ ดังนั้นจึงถูกคนเข้าใจผิดบ่อย ๆ ว่า เป็นแมวเก้าแต้ม แต่ที่จริงแล้ว แมวเก้าแต้มเป็นชื่อของแมวไทยอีกชนิดหนึ่งที่สูญพันธุ์ไปแล้ว

         ทั้งนี้ ไม่ว่าจะนำแมววิเชียรมาศไปผสมกับแมวพันธุ์อะไรก็ตาม ก็จะได้สีแต้มตามแบบ แต่แตกต่างกันในเรื่องของรูปร่างและอุปนิสัย อีกทั้งเมื่ออายุมากขึ้น สีแต้มก็จะเข้มขึ้นตามลำดับ นอกจากนี้อาจจะมีสีแต้มที่แปลกแยกออกไป เช่น แต้มสีเทา สีแดง และสีกลีบบัว

          ส่วนอุปนิสัยของแมววิเชียรมาศก็คล้ายคลึงกับแมวไทยทั่วไป คือ มีความฉลาด คล่องแคล่ว ปราดเปรียวเหมือนกับรูปร่าง มีความเป็นตัวของตัวเองสูง แต่ก็สุภาพเรียบร้อย แม้ว่าภายนอกของแมววิเชียรมาศจะดูรักสันโดษ แต่ความจริงแล้วกลับไม่ชอบอยู่ตามลำพัง ดังนั้นมันจึงเป็นแมวขี้อ้อน ประจบประแจงเก่ง

           
 การเลี้ยงดูแมววิเชียรมาศ

          ตอนกลางวันควรให้แมวอยู่อย่างอิสระในบ้านหรือนอกบ้านก็ได้ ตอนกลางคืนควรขังรวมกันไว้ในกรง กรงแมวต้องมีขนาดใหญ่ การเลี้ยงแมวในบ้าน แมวจะชอบขับถ่ายในที่ที่มีกลิ่นเหม็นหรือเป็นจุดอับ หากต้องการให้แมวขับถ่ายเป็นที่เป็นทาง ควรเตรียมกระบะทรายไว้ในบ้านด้วย แต่ที่ต้องระวังคือแมวตัวผู้ที่โตแล้ว มักจะขับถ่ายไม่เลือกที่





5. แมวโคราช (Korat)
          แมวพันธุ์นี้มีชื่อเรียกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น แมวมาเลศ แมวดอกเลา หรือแมวสีสวาด เป็นหนึ่งใน 17 แมวมงคลของไทย ที่ได้รับพระราชทานชื่อมาจาก สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 5 ตามแหล่งกำเนิดของแมวพันธุ์นี้ ซึ่งพบใน อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ชื่อเสียงของแมวโคราชโด่งดังไปทั่วโลก หลังจากชนะเลิศงานประกวดประจำปีที่สหรัฐอเมริกา ในปี ค.ศ.1966






          
 ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของแมวโคราช

          ลักษณะของแมวโคราชจะมีขนเรียบ โคนขนสีเทาขุ่น ๆ ส่วนปลายขนเป็นสีเงินประกายคล้ายหยดน้ำค้างบนใบบัว หรือผมหงอก และเป็นสีเช่นนี้ตลอดทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดปลายหาง สำหรับใบหน้าหากมองดูจากด้านหน้าจะเห็นเป็นรูปหัวใจ หน้าผากใหญ่และแบน หูตั้ง ปลายหูมน โคนหูใหญ่ สำหรับแมวตัวผู้บริเวณหน้าผากจะมีรอยหยักทำให้เห็นเป็นรูปหัวใจเด่นชัดมากขึ้น ผิวหนังที่บริเวณจมูกและริมฝีปาก จะเป็นสีเงินหรือม่วงอ่อน

          
 การเลี้ยงดูแมวโคราช

          โดยปกติแล้วแมวโคราชจะมีอายุขัยเฉลี่ยอยู่ที่ 10-15 ปี ซึ่งวิธีการดูแลเหมือนแมวไทยทั่วไป แต่ควรใส่ใจเรื่องการถ่ายพยาธิและการฉีดวัคซีนมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการฉีดวัคซีน 3 ชนิดต่อปีให้ครบถ้วน ซึ่งประกอบไปด้วย วัคซีนป้องกันหัดแมว ลูคีเมีย และพิษสุนัขบ้า





6. แมวขาวมณี (Khao Manee)

 สำหรับแมวขาวมณีไม่มีหลักฐานยืนยันที่มาอย่างชัดเจน รู้เพียงว่า เริ่มพบเห็นมากในช่วงรัตนโกสินทร์ตอนต้น โดยมีข้อสันนิษฐานว่า น่าจะเป็นแมวที่ติดมากับเรือสำเภาของพ่อค้าจีน ที่เลี้ยงไว้จับหนูบนเรือ แต่เนื่องจากสีขาวเป็นสีที่ดูสะอาดและเป็นสีมงคลสำหรับคนไทย ดังนั้นแมวขาวมณีจึงกลายเป็นแมวบ้านนับจากนั้นเป็นต้นมา และที่สำคัญแมวพันธุ์นี้ยังเป็นแมวที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือรัชกาลที่ 5 ทรงโปรดปรานเป็นพิเศษด้วย



       

          
ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของแมวขาวมณี

          เอกลักษณ์ของแมวขาวมณี นอกจากจะมีขนสีขาวปลอดทั่วทั้งตัวแล้ว นัยน์ตาทั้ง 2 ข้างของแมวขาวมณียังแตกต่างไปจากแมวไทยพันธุ์อื่น โดยมีทั้งนัยน์ตาสีฟ้า สีเหลืองอำพัน และตา 2 สี ลักษณะมาตรฐานของแมวขาวมณี หัวจะต้องกลมใหญ่คล้ายรูปหัวใจ จมูกสั้น หูตั้งใหญ่ โคนหางใหญ่ แต่มีปลายแหลมชี้ตรง และต้องเรียวได้สัดส่วนกับลำตัว ส่วนเสน่ห์ของแมวขาวมณีนั้น นอกจากขนสีขาวเนียนสนิท มันยังเป็นแมวที่ช่างประจบประแจง ขี้อ้อน ชอบเข้ามาคลอเคลีย และจะคอยสังเกตเจ้าของตลอด ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ก็ตาม

          
การเลี้ยงดูแมวขาวมณี

          ส่วนมากมักจะนิยมเลี้ยงแมวขาวมณีแบบเป็นคู่ เพื่อให้พวกมันพลัดกันเลียขนเพื่อทำความสะอาด แมวพันธุ์นี้เป็นแมวเชื่อง และเชื่อฟังคำสั่งเจ้าของ จึงเหมาะกับการเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนแก้เหงาได้ดีเลยทีเดียว






7. แมวบริติช ชอร์ตแฮร์ (British Shorthair)

          แมวท้องถิ่นสายพันธุ์เก่าแก่ที่สุดบนเกาะอังกฤษ ซึ่งเล่ากันว่าบรรพบุรุษของพวกมันมาจากแมวที่ชาวโรมันเอามาเลี้ยงเมื่อ 2,000 ปีก่อน และเป็นแมวที่ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งในประเทศต้นกำเนิดและประเทศอื่น ๆ แถบยุโรปจนถึงยุคปัจจุบัน เนื่องจากมันเป็นแมวที่มีความเฉลียวฉลาด จึงเป็นที่ชื่นชอบของผู้ฝึกสัตว์ เพื่อใช้ในการโฆษณาทางโทรทัศน์หรือเข้าฉากในภาพยนตร์ของฮอลลีวูด



          
ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของแมวบริติช ชอร์ตแฮร์

         แมวบริติช ชอร์ตแฮร์ เป็นแมวที่มีลักษณะกะทัดรัด สมดุลดี แข็งแรง หน้าอกเต็มและกว้าง ขาสั้น อุ้งเท้ากลม หางหนาและกลม หัวกลมรับกับใบหูขนาดเล็ก คอสั้น แก้มยุ้ย คางหนา ดวงตากลมโต จมูกค่อนข้างสั้น ขนหนาและสั้น มีอายุเฉลี่ยประมาณ 15-20 ปี

         ส่วนอุปนิสัยของแมวพันธุ์นี้ค่อนข้างนิ่งสงบกว่าแมวพันธุ์อื่น ๆ เดาทางได้ง่าย เนื่องเป็นมิตรกับผู้คนรวมถึงสัตว์ชนิดอื่น ๆ ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ง่าย ดังนั้นจึงไม่ค่อยพบเห็นแมวสายพันธุ์นี้ส่งเสียงรบกวน แสดงอาการก้าวร้าว หรือทำลายสิ่งของให้เห็น

         
 การเลี้ยงดูแมวบริติช ชอร์ตแฮร์

         แมวบริติช ชอร์ตแฮร์เป็นแมวที่ดูแลง่าย แต่ควรเลี้ยงในบ้าน นอกจากนี้บริติช ชอร์ตแฮร์ อาจเป็นแมวที่มีพัฒนาการการเจริญเติบโตช้าอยู่สักหน่อย แต่ความสมบูรณ์และความสวยงามของมันจะอยู่คู่กับแมวไปตลอดเกือบชั่วอายุขัยเลยทีเดียว





8. แมวเอ็กโซติก (Exotic)
          แมวหน้าบูด จมูกหัก แต่น่ารักไม่แพ้ใคร เพราะสืบเชื้อสายมาจากแมว 2 สายพันธุ์ ระหว่างแมวเปอร์เซียกับแมวอเมริกัน ช็อตแฮร์ จนกลายมาเป็นแมวเอ็กโซติก หลากหลายรูปแบบ อาทิ  Exotic Blue Tabby, Exotic Red Tabby, Exotic Cream Tabby เป็นต้น





          
 ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของแมวเอ็กโซติก

          ลักษณะทั่วไปของแมวเอ็กโซติกเหมือนกับแมวเปอร์เซียทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นลักษณะหัวกลม กะโหลกใหญ่ ใบหูเล็กกลม จมูกหักเล็กน้อย ยกเว้นเส้นขนสั้น ๆ ที่หนานุ่มคล้ายกับกำมะหยี่ อันเป็นสัญลักษณ์ของแมวสายพันธุ์นี้

          ส่วนเรื่องอุปนิสัยก็แทบไม่มีแตกต่างจากแมวเปอร์เซียเลย เพราะแมวเอ็กโซติกเป็นแมวที่ซื่อสัตย์ต่อเจ้าของ ไม่ค่อยหงุดหงิด และมีความอดทนสูง ดังนั้นคุณแทบจะไม่ได้ยินเสียงร้องของแมวพันธุ์นี้แน่นอน หากมันต้องการความสนใจขึ้นมา ก็จะทำแค่นั่งอยู่หน้าคุณ กระโดดมานั่งบนตัก หรือเอาจมูกชื้น ๆ ของมันมาแตะที่หน้าคุณเท่านั้น นอกจากนี้ยังพบว่า แมวพันธุ์เอ็กโซติกบางตัวอาจจะชอบนั่งอยู่บนไหล่และกอดคุณเวลาคุณเล่นด้วย

          
การเลี้ยงดูแมวเอ็กโซติก

          ใครที่อยากเลี้ยงแมวสายพันธุ์ต่างประเทศ แต่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลขน แมวพันธุ์เอ็กโซติกก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะมันเป็นแมวที่เหมาะกับการเลี้ยงไว้ในบ้าน ที่สำคัญขนอันสวยงามของแมวพันธุ์นี้ ยังต้องการการบำรุงรักษาน้อยกว่าแมวเปอร์เซียทั่ว ๆ ไป เพราะไม่ค่อยจับตัวเป็นก้อนหรือพันกันยุ่งเหยิงอีกด้วย




9. แมวเมนคูน (Main Coon)
          ถึงแม้แมวเมนคูนจะมีร่างกายที่ใหญ่โตกว่าแมวปกติ แต่มันกลับเป็นพี่ใหญ่ใจดี จนได้รับสมญานามว่า Gentel Giant ชื่อของแมวสายพันธุ์นี้ มีที่มาจากรัฐเมน (Maine) ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของมัน ส่วนคำว่า คูน (Coon) มาจากคำบอกเล่าของชาวพื้นเมืองที่กล่าวว่า แมวบ้านเผลอไปกุ๊กกิ๊กกับตัวแรคคูน (Raccoon) จนมีการจับ 2 คำนี้มารวมกัน กลายเป็นชื่อที่ใช้เรียกกันทั่วไปว่า เมนคูน (Main Coon)






          
 ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของแมวเมนคูน

          ลักษณะเด่นของแมวพันธุ์เมนคูน คือ รูปร่างที่สมส่วน ดูสง่างาม และให้ความรู้สึกที่มั่นคงแข็งแรง หากเป็นแมวโตเต็มที่ ร่างกายของมันจะมีความยาวตั้งแต่หัวจรดปลายหางประมาณ 1 เมตร น้ำหนักตัวอยู่ที่ประมาณ 12-15 กิโลกรัม ถึงแมวเมนคูนจะมีโครงสร้างใหญ่ ใบหน้าเหมือนกับแมวป่า มีแผงคอคล้ายสิงโต แถมบริเวณปลายหูยังมีเส้นขนงอกออกมา แต่มันกลับมีนิสัยขี้อ้อน ขี้เล่น ร่าเริง ตั้งแต่เด็กไปจนถึงวัยเจริญพันธุ์

           
 การเลี้ยงดูแมวเมนคูน

          อายุขัยของแมวพันธุ์อยู่ที่ราว ๆ 15 ปี เหมือนแมวทั่วไป แต่เนื่องจากร่างกายที่ค่อนข้างใหญ่โต การให้อาหารแบบแมวทั่วไปอาจไม่เพียงพอต่อการเจริญเติบโต ดังนั้นเจ้าของควรเสริมด้วยเนื้อสัตว์ที่มีโปรตีนสูง ไขมันต่ำ เพื่อช่วยสร้างกล้ามเนื้อให้กับมัน

          ส่วนขนของแมวเมนคูนค่อนข้างหวีง่าย เนื่องจากเป็นแมวกึ่งขนยาว จึงไม่มีปัญหาขนพันกันแบบแมวเปอร์เซีย เพียงแต่ควรจะอาบน้ำให้มันอย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง และหลังการอาบน้ำทุกครั้ง ควรจะเช็ดพร้อมกับเป่าขนให้แห้งสนิท เพื่อป้องกันโรคเชื้อราบนผิวหนัง






10. แมวเบงกอล (Bengal)

          แมวเบงกอลเป็นแมวที่มีลวดลายสวยงาม คล้ายลูกเสือดาวตัวน้อย ๆ คาดกันว่า แมวเบงกอลเกิดจาการผสมพันธุ์ระหว่างแมวดาวกับแมวบ้านสายพันธุ์อียิปต์เชียนมัวร์ (Egyptian Mau) ซึ่งเป็นแมวอียิปต์โบราณ ที่มีโครงสร้างเป็นลายจุด ลักษณะคล้ายแมวป่า โดยถูกนำมาพัฒนาสายพันธุ์ ด้วยฝีมือของ Jean Mills หญิงสาวชาวอเมริกัน ที่หลงใหลคลั่งไคล้ในลวดลายของแมวป่า พร้อมกับตั้งชื่อของมันตามชื่อวิทยาศาสตร์ของแมวป่าที่เรียกกันว่า Felis Bengolensis





          
ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของแมวเบงกอล

          แมวเบงกอลเป็นแมวขนาดปานกลางถึงค่อนข้างใหญ่ หัวมีความยาวมากกว่าความกว้าง  เช่นเดียวกับรูปร่างที่มีลักษณะเพรียวยาว เห็นมัดกล้ามเนื้อชัดเจนคล้ายแมวป่า เมื่อมองจากด้านข้างจะเห็นว่า ช่วงสะโพกมีความสูงกว่าหัวไหล่ ปลายหางชี้ลง ใบหูกลมสั้น ตารูปไข่ มีช่วงปากกับจมูกกลมกว่าแมวบ้าน และมีจุดเด่นอยู่ที่ลายขนคล้ายแมวป่า หรือที่เรียกกันว่า ลายหินอ่อน

          ถึงแม้แมวเบงกอลจะสืบสายพันธุ์มาจากแมวป่า แต่พวกมันกลับมีนิสัยน่ารักไม่ดุร้ายอย่างที่คิด แถมยังเป็นมิตรกับทุกคนเสียด้วย นอกจากนี้แมวเบงกอลยังเป็นแมวที่ซุกซน เพราะชอบวิ่งไล่สิ่งของต่าง ๆ รวมทั้งชอบปีนป่ายขึ้นที่สูงอยู่เป็นประจำ ที่สำคัญแมวพันธุ์นี้ชอบเล่นน้ำเอามาก ๆ ด้วย

          
 การเลี้ยงดูแมวเบงกอล
          การเลี้ยงดูแมวเบงกอลก็เหมือนกับการดูแลแมวทั่วไป แต่ถ้าอยากให้มันมีสุขภาพดีและมีขนที่สวยงาม ควรใส่ใจในเรื่องอาหารเป็นพิเศษ โดยต้องเพิ่มเมนูเนื้อวัวสดจากอาหารที่กินเป็นประจำ ซึ่งเนื้อสดที่ให้ก็ต้องผ่านการเก็บรักษาด้วยการแช่แข็ง เพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อรากับแบคทีเรีย และห้ามให้เนื้อไก่หรือเนื้อหมูโดยเด็ดขาด





ขอบคุณข้อมูลจาก

http://pet.kapook.com/view70394.html

https://www.facebook.com/kingdomoftigers?fref=ts